บลูมเบิร์ก จัด อันดับรับมือโควิด ไทยร่วง 4 อันดับ

บลูมเบิร์ก จัด อันดับรับมือโควิด ไทยร่วง 4 อันดับ

ประเทศไทยร่วง 4 อันดับ หลังสำนักข่าวชื่อดังจัด อันดับรับมือโควิด ขณะเดียวกันสิงคโปร์แซงหน้านิวซีแลนด์ แชมป์เก่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน สำนักข่าว บลูมเบิร์ก ได้ทำการจัดอันดับ ประเทศที่สามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด จากทั้งหมด 53 เขตเศรษฐกิจของโลก ประจำเดือนเมษายน

โดยประเทศไทยนั้น ได้คะแนน 66.7 อยู่อันดับที่ 13 ร่วงลงมา 4 อันดับ 

หลังจากที่ในช่วงอันดับที่ผ่านมาอยู่ที่อันดับที่ 9 ถูกเวียดนามและฮ่องกงแซงหน้าขึ้นไป นอกจากนี้ในการจัดอันดับยังระบุว่าปัจจุบันในประเทศไทยได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้น

ส่วนที่ 1 นั้นเป็นประเทศสิงคโปร์ที่แซงหน้านิวซีแลนด์ขึ้นไป และเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์โค่นนิวซีแลนด์ที่เป็นแชมป์มานานหลายเดือนอีกด้วย โดยทางบลูมเบิร์กให้สาเหตุว่าสาเหตุที่สิงคโปรืขยับขึ้นมา เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด

ปัจจุบัน สามารถลดการแพร่ระบาดรายวันได้เกือบเป็นศูนย์ ผลจากการบริหารจัดการชายแดนและนโยบายกักกันโรคที่เข้มงวด ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ

ในขณะเดียวกันโปแลนด์เป็นประเทศที่รั้งท้ายในการจัดอันดับครั้งนี้ ตามมาด้วยบราซิลที่อยู่อันดับรองโหล่ ส่วนอินเดียที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่วิกฤติต่อเนื่อง อยู่อันดับที่ 30 หล่นลงมา 10 อันดับจากเดือนที่ผ่านมา

สหรัฐฯ ประกาศ แบ่งวัคซีนแอสตราเซเนกา 60 ล้านโดส คาดอาจเริ่มส่ง 10 ล้านโดสแรกได้ในสัปดาห์ถัดจากนี้ ยังไม่มีแผนว่าจะให้ประเทศใดก่อน

เมื่อวันที่ 27 เมษายน สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ทำเนียบขาวสหรัฐฯได้ประกาศ เตรียมแบ่งวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิด-19  กว่า 60 ล้านโดสทั่วโลก หลังจากที่นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องเผชิญแรงกดดัน ถึงการสร้างความเท่าเทียมด้านวัคซีนให้กับทั่วโลก

ทั้งนี้โฆษกของทำเนียบขาวระบุว่าขณะนี้ประเทศสหรัฐฯยังไม่พร้อมจะส่งออกวัคซีนแอสตราเซเนกา เนื่องจากองค์กรอาหารและยา หรือ FDA ยังไม่ได้อนุมัติใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาใน อย่างไรก็ตามโฆษกทำเนียบขาวเชื่อว่าจะพร้อมส่งวัคซีนล็อตแรกในช่วงสัปดาห์ถัดจากนี้ และ อีก 50 ล้านโดสที่เหลือในช่วงเดือนพฤษภาคม และ เดือนมิถุนายน

ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินแน่ชัดว่าทางสหรัฐอเมริกาจะแบ่งวัคซีนให้กับประเทศอื่นอย่างใด โดยอาจจะตัดสินจากกลุ่มประเทศพันธมิตรกับสหรัฐฯ

นโยบายนี้เกิดขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯถูกกดดันอย่างหนัก ขณะที่ประเทศอินเดียกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นวิกฤติและ พร้อมขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆรวมไปถึงวัคซีนต้านโควิด-19 อีกด้วย

ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการจัดซื้อวัคซีนกว่า 230 ล้านโดส โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุว่าในขณะนี้ประชาชนมากกว่าอายุ 18 ปี ราวร้อยละ 54 ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้ว

โควิดอินเดีย อ่วมหนัก พบผู้ป่วยใหม่ทะลุ 3.5 แสนราย

สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิดอินเดีย ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังพบผู้ป่วยใหม่ 3.5 แสนราย ขณะนี้ยอดตายใกล้สองแสนศพ

เมื่อวันที่ 27 เมษายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย ได้ออกมารายงานว่าประเทศอินเดียพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่มากกว่า 352,991 ราย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในประเทศอินเดียขณะนี้อยู่ที่อย่างน้อย 17 ล้านราย ขณะเดียวประเทศอินเดียยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2,764 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในประเทศอินเดียเข้าใกล้ 2 แสนศพ

โดยจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ประเทศอินเดียประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันที่สูงสุด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้น และเป็นวันที่ห้าติดต่อกันที่ประเทศอินเดียทุบสถิติยอดผู้ป่วยสูงสุดต่อวัน

สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศอินเดียยังถือว่าวิกฤติอย่างต่อเนื่อง และระบบสาธารณะสุขใกล้ล่ม เนื่องจากภาวะขาดแคลนถังอ๊อกซิเจน และเจ้าหน้าที่แพทย์ต้องเผชิญหน้ากับผู้ป่วยในห้อง ICU ที่เต็มความจุของโรงพยาบาล

และเนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเผาร่างของผู้เสียชีวิตในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากเตาเผาศพไม่เพียงพอ

ขณะนี้ประเทศสิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ได้ส่งถังอ๊อกซิเจนไปช่วยเหลือผู้ป่วยในประเทศอินเดีย เช่นเดียวกันกับคณะกรรมการยุโรปที่ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาวางแผนจะส่งถังอ๊อกซิเจนเพื่อช่วยเหลือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในอินเดีย

ทั้งนี้ กองทุนขอยืนยันว่า กองทุนจะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัวว่าน้องๆ ที่ขาดแคลนสามารถกู้เงินได้ทุกคนโดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า