ตำรวจรับจับ สุนทร วิลาวัลย์ ไม่ได้! คดีรุกป่าหมดอายุความแล้ว

ตำรวจรับจับ สุนทร วิลาวัลย์ ไม่ได้! คดีรุกป่าหมดอายุความแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับไม่สามารถจับกุม สุนทร วิลาวัลย์ ได้ ส่วนอายุความคดีรุกป่าหมดแล้ว เร่งเอาผิดคนช่วยหลบหนี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กล่าวเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมาถึงความคืบหน้าในการจับกุม นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.33/2565 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2565

ข้อหา “สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต 

อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล” ที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า เท่าที่ทราบยังไม่สามารถจับกุมตัวนายสุนทรได้ โดยคดีนี้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นหน่วยสอบสวนหลัก ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เป็นผู้ช่วย และประสานกันมาโดยตลอด ซึ่งตนเชื่อว่าเมื่อมีการออกหมายจับเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น กลุ่มผู้ต้องหาได้หลบหนีไปแล้ว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ส่งหมายจับไปทั่วประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องชายแดน รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อติดตามจับกุมตัวเช่นกัน โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนคดีจะหมดอายุความ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำให้ดีที่สุด ส่วนจะมีผู้ให้การช่วยเหลือก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน ซึ่งผู้ให้การช่วยเหลือในการหลบหนีนั้นอายุความจะยังมีอยู่ เป็นการดำเนินคดีคนละส่วนกัน

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. กล่าวหาผู้ถูกกล่าวหา 4 คน คือ นางสุรางค์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ, นายสมศักดิ์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด, นายสุนทร ผู้นำเดินสำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นนายก อบจ.ปราจีนบุรี และยังเป็นบิดาของ รมช.ศึกษาฯ และ นายคณิต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 6 กรมป่าไม้

ตามสำนวนของป.ป.ช. ในปี 2563 กอ.รมน.ได้รับการร้องเรียนว่ามีการรุกที่ป่าเขาใหญ่ จึงประสานหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีรถแบ็กโฮ 3 คัน ขุดปรับที่ดินบนเนินเขาใช้รถดันต้นไม้ล้มเป็นวงกว้าง ซึ่งพบที่ดิน 2 ใน 3 แปลงออกโฉนดโดยมิชอบ และยังพบว่าช่างรังวัด กรมป่าไม้ ซึ่งเป็นผู้ขีด และรับรองแนวเขตอุทยานฯ ไม่ได้รับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมป่าไม้

‘อนุทิน’ วอนสังคมมั่นใจ พ.ร.บ.กัญชา ย้ำจำหน่ายให้เด็ก เจอโทษแน่

อนุทิน วอนสังคมขอให้มั่นใจใน พ.ร.บ. กัญชา หลังปลดล็อกกัญาชาไปเมื่อ 9 มิ.ย. ย้ำใช้ในทางที่สร้างสรรคฺ์ พร้อมเตือนหากพบจำหน่ายให้เยาวชนต่ำกว่า 20 เจอโทษ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องของการ ปลดล็อกกัญชา ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน วอนประชาชนขอให้มั่นใจใน พ.ร.บ.กัญชา เน้นย้ำความสำคัญเรื่องแพทย์ และ สุขภาพเป็นสำคัญ ย้ำห้ามขายให้เด็กและใช้มุ่งเน้นทำอะไรในทางที่ผิด

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ต่อข้อห่วงใยของสังคม ต่อการปลดล็อกกัญชา ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการระบุชื่อยาเสพติด(ยส.5) ว่า

ขอบคุณในความห่วงใย แต่อย่างที่เรียนมาตลอดว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องของการแพทย์ และสุขภาพเป็นสำคัญ ไม่มุ่งเน้นให้ไปใช้ในทางที่ผิด อะไรที่ไม่มีประโยชน์ เราไม่สนับสนุนแน่นอน คิดว่า ประชาชน น่าจะทราบเป้าหมายของเรา ไปจนถึงวิธีใช้อย่างถูกวิธีเพราะพูดเรื่องนี้ กันมานานมาก นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ เป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะเป็นนโยบายที่ท่านนายกรัฐมนตรี บรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล ในส่วนของนโยบายเร่งด่วน และเป็นโนยบายที่กระทรวงสาธารณสุขให้ไว้กับประชาชน นี่คือความหวังหนึ่งของคนไทย

ที่งานกัญชาที่ จ.บุรีรัมย์ มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 8 หมื่นคน ผู้ประกอบการได้เข้ามาขอใบอนุญาต การใช้กัญชา กัญชง ผสมในสิยค้า มากกว่า 500 ราย ในแอปฯปลูกกัญ มีคนมาขอขื้นทะเบียนปลูกมากกว่า 7 แสนรายแล้ว สำหรับข้อมูลต่างๆ ขอให้ไปเข้าไปศึกษาในแอปฯ นี่คือ ความนิยมที่มีต่อนโยบายนี้

ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข เราให้ความรู้มาโดยตลอดว่านโยบายนี้ เป็นเสรี เพื่อการแพทย์ และกำลังมีการกระจายข้อมูลให้ถึงพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ท่านปลัดกระทรวงฯ รับดูแลอยู่ สำหรับคนที่กังวลว่านโยบายนี้ จะทำให้เกิดการติดกัญชา ขอเรียนว่า ผู้ที่ใช้อย่างผิดๆ เขาใช้กันมานานแล้ว

และตอนนี้ พ.ร.บ.ที่อยู่ในการพิจารณาจากหลายภาคส่วน ก็กำลังรับฟังปัญหา และหาทางตีกรอบพฤติกรรมพวกนั้นอยู่ ระหว่างนั้น ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องใช้ควบคุม การใช้ แล้วก่อให้เกิดความรำคาญมีความผิด สูบแล้วไปขับรถ เกิดอุบัติเหตุก็มีความผิด ไม่จำเป็นต้องถึง พ.ร.บ.กัญชา เพราะกฎหมายอื่นๆ ก็ใช้ควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ได้เช่นกัน

เมื่อถามว่าการปลดล็อกกัญชาเกิดขึ้นเร็วไปหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ช้าไปเสียอีก เพราะนโยบายนี้พูดกันมานานแล้ว ตอนหาเสียง ก็หาเสียงเรื่องนี้ เราต้องไปถามคนที่เขามองถึงประโยชน์จากกัญชาด้วย ส่วนที่กังวล ก็ขอให้คลายกังวล เพราะเรามีกลไกควบคุมอยู่แล้ว

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า